จากสภาวะมลพิษที่ผ่านมา หลายคนนั้นตื่นตัวกับฝุ่น PM 2.5 แต่หลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่าสารเคมีอันตรายนั้นปะปนอยู่มากเพียงไหนบ้างในอากาศ ซึ่งสารเหล่านี้ต้องใช้เครื่องฟอกอากาศประสิทธิภาพสูงเท่านั้นในการจัดการให้หมดไป 

สารฟอร์มาลดีไฮด์ (HCHO) 
เคยไหมเวลาที่ย้ายเข้าบ้านใหม่ หรือซื้อเฟอร์นิเจอร์ใหม่ จมูกเราจะสัมผัสได้ถึงกลิ่นฉุน ซึ่งถ้าไม่มีเครื่องฟอกอากาศ เราอาจต้องทนสูดดมจนกว่ากลิ่นเหล่านั้นจะหายไป ซึ่งจริงๆแล้ว กลิ่นคุ้นชินที่เราเรียกว่ากลิ่นของใหม่เป็นกลิ่นที่เกิดมาจากสารเคมีที่เรียกว่า  สารฟอร์มาลดีไฮด์ ซึ่งมักเป็นส่วนประกอบในผลิตภัณฑ์จำพวกของตกแต่งบ้าน เช่น เฟอร์นิเจอร์ สิ่งทอและที่นอนราคาถูกไม่ได้มาตรฐาน ซึ่งหากห้องที่ไม่มีการระบายอากาศ หรือไม่มีเครื่องฟอกอากาศ ก็จะยิ่งทำให้ปริมาณความเข้มข้นของฟอร์มาลดีไฮด์นั้นเพิ่มสูงขึ้น และถ้าคนในบ้านได้รับสารฟอร์มาลดีไฮด์สูงเกิน 0.1 ppm จะทำให้เริ่มระคายเคืองตา จมูกและทางเดินหายใจได้  

สารประกอบอินทรีย์ระเหยง่าย (TVOC) 
รู้ไหมว่ากลิ่นต่างๆ ที่อยู่ในบ้าน ส่วนใหญ่ประกอบด้วยสารประกอบอินทรีย์ระเหยง่าย (TVOC) ซึ่งถ้าไม่มีเครื่องฟอกอากาศ เราอาจต้องทนสูดดมสารนี้ตลอดเวลาที่เราอยู่บ้าน ไม่ว่าจะเป็นกลิ่นจากน้ำยาทำความสะอาด  น้ำยาดัดหรือย้อมสีผม กลิ่นของเล่น กลิ่นจากสารกำจัดศัตรูพืช รวมไปถึงกลิ่นควันบุหรี่ ซึ่งหากสาร TVOC  นั้นมีอยู่ในอากาศที่เราหายใจเกิน 0.6 mg/m3 จะส่งผลทำให้เรารู้สึกระคายเคืองตา จมูก รวมถึงเวียนหัวได้ แต่ถ้าได้รับเป็นเวลานาน อาจส่งผลต่อสุขภาพในระยะยาวได้  

จะเห็นได้ว่าไม่ใช่แค่ PM2.5 เท่านั้นที่เราควรใส่ใจ เพราะสารอันตรายนั้นมีซ่อนอยู่ในชีวิตประจำวันเป็นจำนวนมาก เครื่องฟอกอากาศประสิทธิภาพสูงจึงเป็นอุปกรณ์ไฟฟ้าที่สำคัญที่สามารถช่วยลดการสะสมของสารอันตรายในร่างกาย 

ข้อควรระวัง : ไม่ใช่ว่าเครื่องฟอกอากาศทุกรุ่นจะสามารถฟอกหรือกำจัดสารที่เป็นอันตรายได้ ต้องพิจารณาถึงประสิทธิภาพในการกำจัดว่าสูงถึง 99.99% หรือไม่  รวมถึงดูที่ประสิทธิภาพของค่า CADR หรืออัตราความเร็วในส่งมอบคุณภาพอากาศบริสุทธิ์ที่คงที่ตลอดอายุการใช้งาน เพราะบางรุ่งจะแสดงค่า CADR จากประสิทธิภาพเปิดใช้ครั้งแรกเท่านั้น แต่ไม่ได้บ่งบอกว่าประสิทธิภาพจะลดลงตลอดอายุการใช้งาน