เครื่องฟอกอากาศนับเป็นไอเทมที่บ้านและหน่วยงานเริ่มให้ความสำคัญ  ด้วยมลภาวะที่เลวร้ายลงทุกวัน และคุณภาพอากาศถือเป็นปัจจัยที่ส่งผลต่อสุขภาพของเราโดยตรง การเลือกซื้อเครื่องฟอกอากาศจึงต้องพิจารณาคุณสมบัติที่สามารถตอบโจทย์การใช้งานมากที่สุด เพื่อให้เครื่องฟอกอากาศได้ทำงานเต็มประสิทธิภาพอย่างที่เราต้องการ

เลือกเครื่องฟอกอากาศโดยดูที่ตัวไส้กรองเป็นหลัก  
ไส้กรองถือเป็นหัวใจสำคัญของเครื่องฟอกอากาศ เพราะจะเป็นตัวบ่งชี้ถึงคุณสมบัติและประสิทธิภาพในการฟอกอากาศ โดยไส้กรองส่วนใหญ่ในตลาดตอนนี้ จะใช้เป็นไส้กรองที่ต้องคอยเปลี่ยนตามการใช้งาน ซึ่งจะทำให้สิ้นเปลืองค่าใช้จ่ายในการดูแลและประสิทธิภาพยังลดลงตลอดการใช้งานอีกด้วย ต่างกับไส้กรองที่เป็นนวัตกรรม TPA Technology ที่สามารถกรองได้ละเอียดถึง 0.0146 ไมครอน ซึ่งมากกว่าเครื่องฟอกอากาศส่วนใหญ่ที่ใช้ไส้กรอง Hepa ถึง 20 เท่า ยิ่งไปกว่านั้นไส้กรอง TPA Technology ยังถอดล้างใช้ซ้ำได้ตลอดอายุการใช้งานของเครื่อง ซึ่งจะทำให้ประหยัดค่าใช้จ่ายในระยะยาวอีกด้วย 

เลือกเครื่องฟอกอากาศที่เหมาะสมกับขนาดการใช้งาน
ขนาดการใช้งานหมายถึงคุณสมบัติการทำงานของเครื่องฟอกอากาศ ที่สัมพันธ์กับขนาดห้อง โดยหากขนาดห้องไม่เหมาะสมกับคุณสมบัติของเครื่อง อาจทำให้เครื่องฟอกอากาศทำงานหนักมากเกินไป ส่งผลต่ออายุการใช้งานของเครื่องได้ ดังนั้นเวลาเลือกซื้อเครื่องฟอก ต้องดูที่คุณสมบัติของแต่ละรุ่น ว่าเหมาะสมกับห้องขนาดเท่าใด ยิ่งหากต้องการให้เครื่องฟอกมีอายุการทำงานที่ยาวนานยิ่งขึ้น ควรซื้อรุ่นที่ให้พื้นที่การฟอกอากาศมากกว่าขนาดห้อง ก็จะช่วยให้เครื่องทำงานเบาลง ยืดอายุการใช้งานของเครื่องได้นานยิ่งขึ้น 

พิจารณาถึงระดับเสียงของการทำงาน
เนื่องจากผู้ใช้เครื่องฟอกอากาศส่วนใหญ่มักวางเครื่องไว้ในห้องนอน หรือออฟฟิศสำนักงาน ดังนั้นระดับเสียงของการทำงาน จึงเป็นสิ่งสำคัญที่คนเลือกซื้อต้องพิจารณาให้ดี เพราะถ้าเครื่องฟอกทำงานเสียงดังเกินไปอาจรบกวนการนอนหรือการทำงานของคนในห้องนั้นๆ ได้ โดยเครื่องฟอกอากาศที่มีประสิทธิภาพระดับเสียงในการทำงานควรไม่เกิน 33 เดซิเบล รวมถึงควรมี Sleep Mode เพื่อไม่ให้รบกวนการนอนหลับในยามค่ำคืน