ในปัจจุบันคนเป็นโรคภูมิแพ้มีจำนวนเพิ่มมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด จากปัญหาด้านมลพิษทางอากาศที่นับวันจะหนักขึ้นเรื่อย ๆ ที่มีเรื่องของฝุ่น PM 2.5 เป็นปัจจัยหลัก ร่วมกับปัจจัยรองอย่างเช่น ไรฝุ่น ละอองเกสร และจุลินทรีย์ชนิดต่าง ๆ ก็มีส่วนด้วยเช่นกัน โดยโรคภูมิที่เกี่ยวกับทางเดินหายใจนั้นเกิดมาจากภาวะภูมิที่ทำงานไวเกินกว่าปกติ (Hypersenitivity) มีปฏิกิริยาตอบสนองต่อสิ่งเร้าต่าง ๆ จนเกิดอาการต่อเนื่องอย่าง น้ำมูกไหล คัดจมูก ไอ จาม ไปจนถึงอาการหอบหืด และด้วยความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีจึงทำให้มีเครื่องฟอกอากาศสำหรับคนเป็นภูมิแพ้มาเป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจ เพราะมีฟังก์ชันการทำงานสำหรับการฟอกอากาศให้บริสุทธิ์ แต่ก็ยังมีคนจำนวนไม่น้อยที่ตั้งข้อสงสัยว่า เครื่องฟอกอากาศสำหรับคนเป็นภูมิแพ้ช่วยได้จริงหรือไม่ แล้วต้องเลือกอย่างไรถึงจะได้ประสิทธิภาพการทำงานที่เหมาะกับเราที่สุด

เครื่องฟอกอากาศสำหรับคนเป็นภูมิแพ้ช่วยได้จริงหรือไม่

สำหรับประเภทของโรคภูมิแพ้นั้นสามารถเกิดขึ้นได้กับหลายระบบในร่างกาย เช่น ระบบทางเดินหายใจ, แพ้อาหารและยา, ผิวหนัง และดวงตา ซึ่งแต่ละระบบนั้นก็จะมีปัจจัยที่กระตุ้นให้เกิดอาการที่แตกต่างกันไป ซึ่งถ้าให้พูดถึงเครื่องฟอกอากาศสำหรับคนเป็นภูมิแพ้นั้นก็จะต้องมุ่งเน้นไปหาผู้ที่มีอาการกับระบบทางเดินหายใจเป็นหลัก ก็จะสามารถช่วยได้ในระดับหนึ่ง

โดยหลักการทำงานของเครื่องฟอกอากาศนั้น คือการดูดอากาศภายในพื้นที่ ณ ขณะนั้นเพื่อเข้าไปกรองด้วยแผ่นฟิลเตอร์ (Filter) โดยจะทำการจับฝุ่นและสิ่งแปลกปลอมต่าง ๆ เอาไว้ในเครื่อง ซึ่งส่วนมากจะมีระบบการกำจัดเชื้อโรค เชื้อแบคทีเรีย กำจัดกลิ่นจากสารเคมี และสารก่อควันพิษที่อันตรายต่อระบบทางเดินหายใจ จากนั้นเครื่องก็จะปล่อยอากาศบริสุทธิ์ออกมาแทน ก็จะช่วยให้ผู้ที่เป็นภูมิแพ้หายใจได้สะดวกมากขึ้น แต่ทั้งนี้ผู้ใช้งานก็ควรมีการทำความสะอาดห้องอย่างสม่ำเสมอร่วมด้วย เพื่อให้ห้องมีความสะอาดมากขึ้น

วิธีเลือกเครื่องฟอกอากาศสำหรับคนเป็นภูมิแพ้

สำหรับผู้ที่ต้องการเลือกเครื่องฟอกอากาศเพื่อนำมาใช้งานนั้นทาง Airdog ก็มีเทคนิคสำคัญที่จะช่วยให้คุณเลือกเครื่องฟอกอากาศเพื่อใช้สำหรับคนเป็นภูมิแพ้ให้เหมาะสมกับพื้นที่ใช้งานมากที่สุด โดยมีรายละเอียดดังนี้

1.คำนึงถึงขนาดห้อง

เครื่องฟอกอากาศมักมีการออกแบบมาเพื่อใช้งานในพื้นที่จำกัด ซึ่งแต่ละรุ่นก็จะมีการระบุเอาไว้อย่างชัดเจนว่าสามารถใช้ได้ในพื้นที่ไม่เกินเท่าไหร่บ้าง อย่างเช่นเครื่องฟอกอากาศ Airdog รุ่น X5 ที่มีประสิทธิภาพในพื้นที่ขนาด 40-65 ตารางเมตร เพราะขนาดของเครื่องกรองที่อยู่ภายในสามารถกระจายดูดและกระจายอากาศบริสุทธิ์ได้ภายในพื้นที่ที่ระบุได้ดีที่สุด แต่ถ้าหากคุณเลือกใช้กับห้องที่มีขนาดกว้างกว่าที่กำหนดอาจทำให้เครื่องฟอกอากาศทำงานได้ไม่เต็มที่

2.เลือกฟิลเตอร์ที่ใช้แผ่นกรอง HEPA

สำหรับผู้ที่เป็นภูมิแพ้นั้นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญส่วนใหญ่มักจะแนะนำให้ใช้เครื่องฟอกอากาศที่มีฟิลเตอร์หรือแผ่นกรองแบบ HEPA (High Efficiency Particulate Air) เพราะเป็นฟิลเตอร์ที่มีความสามารถในการกรองฝุ่นที่มีอนุภาคเล็กถึง 0.3 ไมครอนได้มากถึง 99.99% เช่น ฝุ่น PM 2.5 เกสรดอกไม้ เชื้อรา เป็นต้น โดยในเครื่องฟอกอากาศสำหรับคนเป็นภูมิแพ้จาก Airdog ทุกรุ่นใช้เทคโนโลยี TPA ซึ่งมีประสิทธิภาพการกรองที่เหนือกว่า HEPA ไปอีกขั้น ทำให้ดักจับได้ในระดับจุลินทรีย์อย่าง เชื้อโรค และไวรัส

3.คุณสมบัติการกำจัดกลิ่นและสารเคมี

สำหรับคนเป็นผู้ภูมิแพ้ทางเดินหายใจ เรื่องกลิ่นไม่พึงประสงค์หรือกลิ่นฉุนบางอย่าง ก็มีผลต่อการใช้ชีวิตด้วยเช่นกัน ดังนั้นเครื่องฟอกอากาศที่ดีสำหรับคนเป็นภูมิแพ้ ต้องมีคุณสมบัติในการกำจัดกลิ่นที่อาจเกิดจากสารเคมี รวมไปถึงก๊าซบางประเภทที่มีส่วนในการก่อภูมิแพ้กำเริบได้

สำหรับผู้ที่เป็นภูมิแพ้คนไหนที่กำลังมองหาเครื่องฟอกอากาศสำหรับคนเป็นภูมิแพ้อยู่ Airdog ผู้นำด้านเทคโนโลยีฟอกอากาศพร้อมเป็นตัวช่วยสำคัญให้คุณได้ใช้ชีวิตอย่างราบรื่นกับเครื่องฟอกอากาศ 3 รุ่นทรงพลัง X3, X5 และ X8 Pro ซึ่งมีคุณสมบัติในการฟอกอากาศที่เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับทางเดินหายใจ ใช้ได้ทั้งที่บ้าน ที่ทำงาน ไปจนถึงโรงพยาบาล ปรึกษาหรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมกับ Airdog ได้ทันทีคลิก www.airdogofficialthailand.com